อับอากาศจริงๆแล้วมีกี่หลักสูตรกันแน่?

อับอากาศจริงๆแล้วมีกี่หลักสูตรกันแน่?

หลักสูตรเกี่ยวกับการทำงานในที่อับอากาศมักจะแบ่งออกเป็นหลายหลักสูตรย่อยเพื่อให้เหมาะสมกับบทบาทและหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เหล่านั้น โดยทั่วไปแล้ว หลักสูตรย่อยที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่อับอากาศมีดังนี้:

1. หลักสูตรผู้อนุญาต (Authorized Entrant):
    - สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ต้องเข้าไปปฏิบัติงานในที่อับอากาศโดยตรง เช่น การตรวจสอบ การซ่อมบำรุง หรือการติดตั้งอุปกรณ์

2. หลักสูตรผู้ปฏิบัติงาน (Operator):
    - สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานจากภายในพื้นที่อับอากาศ โดยจะคอยสังเกตการณ์และติดต่อกับผู้ที่ทำงานอยู่ภายใน รวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน

3. หลักสูตรผู้ควบคุมงาน (Entry Supervisor):
    - สำหรับผู้ที่มีหน้าที่อนุญาตและดูแลการปฏิบัติงานในที่อับอากาศ โดยมีหน้าที่ตรวจสอบและยืนยันว่าการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรการความปลอดภัย รวมถึงการอนุมัติให้เข้าและออกจากพื้นที่อับอากาศ

4. หลักสูตรผู้ช่วยเหลือและกู้ภัย (Rescue Team):
   - สำหรับทีมที่มีหน้าที่ในการกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในที่อับอากาศ ซึ่งต้องมีการฝึกฝนและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

5. หลักสูตรทบทวนที่อับอากาศ (Rescue Team):
   - สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับที่อับอากาศที่มีอายุใบวุฒิบัตรกำลังจะครบ 5 ปี ตามกฎหมายฯ จะต้องมีการทบทวนภายใน 30 วัน ก่อนวันครบกำหนด

6. หลักสูตร 4 ผู้ที่อับอากาศ (4 Rule Confined Space):
   - สำหรับทีมที่ต้องมีการสลับสับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่เพื่อให้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นการเพิ่มทักษะของพนักงานให้ครอบคุมความเสี่ยงในการทำงานกับที่อับอากาศ

หลักสูตรเหล่านี้มีความสำคัญในการรับประกันความปลอดภัยของผู้ที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นที่อับอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย

___________________________________________________

เกร็ดความรู้เกี่ยวที่อับอากาศตามกฎหมายฯ พ.ศ. 2562

- ที่อับอากาศ (Confined Space)หมายถึง พื้นที่ที่มีทางเข้า-ออกจำกัด การถ่ายเทอากาศไม่เพียงพอ และอาจมีอันตราย เช่น การขาดออกซิเจน ก๊าซพิษ หรืออุบัติเหตุจากอุปกรณ์ภายใน เช่น ถังเก็บสาร บ่อพักน้ำ อุโมงค์ หรือท่อขนาดใหญ่

- ลักษณะของที่อับอากาศ
พื้นที่จะถูกจัดว่าเป็นที่อับอากาศหากมี 4 ข้อหลัก ได้แก่
✅ มีทางเข้า-ออกที่จำกัด – เข้าไปทำงานยาก ต้องปีน ลอด หรือเปิดฝาปิด
✅ ไม่ได้ออกแบบไว้ให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง - ลักษณะพื้นที่ออกแบบให้เข้าทำงานได้กรณีจำเป็น ไม่สามารถเข้าไปเป็นกิจวัตรได้ หรือให้เข้าได้ตามช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น
✅ อากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ(บรรยากาศอันตราย) – อาจมีออกซิเจนต่ำ ก๊าซพิษ หรือไอระเหยสะสม
✅ มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือชีวิต(สภาพอันตราย) – เช่น ขาดอากาศ ก๊าซพิษ อุณหภูมิสูง

- อันตรายที่พบในที่อับอากาศ 
⚠️ ออกซิเจนต่ำกว่า 19.5% – ทำให้หมดสติหรือเสียชีวิต
⚠️ ก๊าซพิษ – เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H₂S), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)
⚠️ ก๊าซไวไฟ – เสี่ยงต่อการระเบิด เช่น เมทาน (CH₄)
⚠️ อุณหภูมิสูง หรือสารเคมีอันตราย – เสี่ยงต่อภาวะช็อกหรือบาดเจ็บ

- ข้อกำหนดตามกฎหมายไทย (พ.ศ. 2562) สำหรับการทำงานในที่อับอากาศ
🔹 ต้องประเมินความเสี่ยง และจัดทำแผนการทำงานให้ชัดเจน
🔹 ใช้ระบบอนุญาตเข้าทำงาน (Permit System) โดยผู้อนุญาตต้องอนุมัติก่อน
🔹 ตรวจวัดก๊าซและออกซิเจนด้วยเครื่อง Gas Detector ก่อนและระหว่างทำงาน
🔹 ผู้ปฏิบัติงานต้องผ่านการฝึกอบรม - ตามมาตรฐานหลักสูตรของกระทรวงแรงงานกำหนด
🔹 ต้องมีผู้ช่วยเหลือ (Standby Rescue) ที่ผ่านการอบรมอยู่หน้าทางเข้า-ออกที่อับอากาศตลอดเวลาทำงาน 
🔹 เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและกู้ภัย เช่น เครื่องช่วยหายใจหรือSCBA เชือกนิรภัย และอื่นๆ

- บทลงโทษตามกฎหมาย พ.ศ. 2562
หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับที่อับอากาศ อาจมีโทษตาม (พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554) ได้แก่
🚨 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

📌 สรุป: การทำงานในที่อับอากาศต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายไทยปี 2562 โดยต้องมีการประเมินความเสี่ยง อบรมพนักงาน ใช้มาตรการความปลอดภัย และเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้พร้อมเสมอ
โพสต์เมื่อ :
2567-08-12
 167
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์